ชื่องานวิจัย
ชื่องานวิจัยภาษาไทย การพัฒนาการปลูก การแปรรูป และการตลาดถั่วลิสงอบเพื่อเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน
ชื่องานวิจัยภาษาอังกฤษ Growing, Processing & Marketing Development of Roast Peanut as a Community Product

ผู้ร่วมทำงานวิจัย
หัวหน้าโครงการดร. รัชฎา เศรษฐวงศ์สิน
ผู้ร่วมวิจัยนาย พินิจ ดำรงเลาหพันธ์
ผู้ร่วมวิจัยผศ.ดร. อังคณา ธรรมสัจการ
ผู้ร่วมวิจัยผศ. นพรัตน์ วงศ์หิรัญเดชา
ผู้ร่วมวิจัยผศ. ณฐมน เสมือนคิด

รายละเอียดงานวิจัย
แหล่งทุนวิจัย เครือข่ายการวิจัยภาคใต้ตอนล่าง สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา
สาขาการวิจัย สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา
ปีงบประมาณ 2551
ระยะเวลาดำเนินการวิจัย 1 ปี
งบประมาณ ไม่ระบุ
พื้นที่ทำการวิจัย ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา จ.สงขลา
ผู้ประสานงานในพื้นที่ ไม่ระบุ
สถานะของผู้ประสานงาน ไม่ระบุ
ประเภทงานวิจัย เดี่ยว
สถานะงานวิจัย ดำเนินการเสร็จสิ้น
คำสำคัญ การปลูก, การตลาด, ถั่วลิสง, ชุมชน, เกษตร
บทคัดย่อ        เกษตรกรบ้านทรายทองพัฒนา หมู่ที่ 2 ตำบลคลองทรายขาว  อำเภอกรหรา  จังหวัดพัทลุง  ปลูกถั่วลิสงหลังฤดูทำนาเป้นอาชีพเสริม  เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม  และเป็นการสร้งกำลังต่อรองในการขายผลิต  คณะผู้วิจัยจึงได้ร่วมกับกลุ่มเกตรกรทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปถั่วลิสง  เพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน  โดยทำการทดสอบถั่วลิสง 10 พันธ์  ในพื้นที่เป้าหมาย  กลุ่มที่มีเมล็ดขนาดเล็กถึงปานกลางได้แก่พันธ์กาฬสินธุ์ 1  กาฬสินธุ์ 2  มข.40  ขอนแก่น 5  ขอนแก่น 60-2  พันธ์ที่ปลูกอยู่แล้วในพื้นที่ 2 พันธ์คือไทนาน 9  และพันธ์ สข.38  และกลุ่มที่มีเมล็ดขนาดใหญ่ได้แก่พันธ์เกษตรศาสตร์ 50  ขอนแก่น 60-3  และขอนแก่น 6  ผลการทดลองพบว่าการปลูกถั่วลิสงแบบอาศัยน้ำฝน  ตามสภาพการปฏิบัติจริงของเกษตรกร  คือกะระยะปลูกเอง (ประมาณ 30*30 ซม.)  ใส่ปุ๊ยสูตร 8-24-24 ในอัตรา 10 กก./ไร่  ถั่วลิสงพันธ์ สข.38 ให้ผลผลิตน้ำหนักฝักสด  น้ำหนักฝักแห้ง  และน้ำหนักเมล็ดแห้งสูงที่สุด คือ เท่ากับ 700.00  427.50 และ 295.50 กก./ไร่  ในขณะที่การปลูกตามคำแนะนำของกรมวิาการเกษตร  ระยะปลูก 25*30 ซม.  ใส่ปุ๊ยสูตร 15-15-15 อัตรา 50 กก./ไร่  ถั่วลิสงพันธ์กาฬสินธุ์ 1  ให้น้ำหนักฝักสดสูงที่สุด คือ  เท่ากับ 816.67 กก./ไ่ร  พันธ์ไทนาน 9 ให้น้ำหนักฝักแห้ง  และน้ำหนักเมล็ดแห้งสูงสุด คือ เท่ากับ 475.83 และ 366.67 กก./ไร่  ส่วนถั่วลิสงกลุ่มที่มีเมล็ดฝักขนาดใหญ่ได้แก่  พันธ์เกษตรสาสตร์ 50  ขอนแก่น 60-3 และขอนแก่น 6 ให้ผลผลิตค่อนข้างต่ำ  โดยมีน้ำหนักฝักสดอยู่ในช่วง 430 ถึง 490 กก./ไร่  ในการปลูกแบบเกษตรกร  และ 550-640 กก./ไร่  เมื่อปลูกตามคำแนะนำของกรมวิชาการเกษตรซึ่งการปลูกแบบหลังให้ผลผลิตที่สูงกว่าการปลูกในสภาพการปฏิบัติจริงของเกษตรกร  เนื่องจากมีจำนวนต้นต่อไร่  และได้รับปุ๊ยในอัตราที่สูงกว่า

       ถั่วลิสงกลุ่มที่ให้เมล็ดขนาดใหญ่เป็นที่ชื่อนชอบของเกษตรกร  แค่เนื่องจากผลผลิตถั่วลิสงพันธ์ดั้งเดิมที่เคยปลูกให้ผลผลิตสูงกว่ามาก  จึงตัดสินใจที่จะพัฒนาจากถั่วลิสงพันธ์ที่เคยปลูกอยู่เดิมคือพันธ์ไทนาน 9  โดยร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมา 3 ชนิด  ได้แก่  เมี่ยงคำสำเร็จรูปจากถั่วลิสงผสมข้าวพอง  ถั่วลิสงผสมข้าวเม่าปรุงรส  และถั่วลิสงทั้งเปลือกอบเกลือ  ปรากฏว่ากลุ่มแม่บ้านเกษตรกรเลือกที่จะผลิตถั่วลิสงอบเกลือเป้นสินค้าของกลุ่มต่อไป  เนื่องจากกรรมวิธีการผลิตไม่ยุ่งยากสามารถเก็บไว้ได้นาน  ขั้นตอนการผลิตถั่วลิสงมีเปลือกอบเกลือให้ปลอดภัยจากสารอะฟาทอกซินต้องคัดคุณภาพของถั่วลิสงให้ดี  ร่วมกับการลบ้างน้ำให้สะอาดจะช่วยลดปริมาณสารอะฟาทอกซินได้อีกทั้งต้องไม่ใช่ถั่วลิสงที่เสียมีเชื้อราหรือมีตำหนิอื่น ๆ เข้าสู่กระบวนการผลิตโดยเด็ดขาด  จากนั้นแช่ถั่วลิสงสดในน้ำเกลือเข้มข้นร้อยละ 15 เป็นเวลา 24 ชม.  เพื่อให้เมล็ดถั่วภายในมีรสเค็ม  แล้วอบให้แห้ง นำไปคั่วจนสุก  เพื่อให้มีความชื้นไม่เกินร้อยละ 3  อย่างไรก็ตามแม้ว่าการล้างทำความสะอาดด้วยน้ำจะสามารถลดปริมาณสารอะฟาทอกซินได้  แต่ต้องล้างด้วยน้ำจำนวนมาก หลายๆครั้ง  ซึ่งหากเป็นถั่วลิสงมีเปลือกอบเกลือจะลดปริมาณสารอะฟาทอซินได้เฉพาะในส่วนเปลือกเท่านั้นไม่สามารถกำจัดสารอะฟาทอกซินในเมล็ดได้  จึงจำเป็นต้องควบคุมคุณภาพตั้งแต่วัตถุดิบเริมแรก  นอกจากนี้คณะผู้วิจัยได้ช่วยปรับปรุงตู้ลมร้อนของกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการ  ให้สามารถใช้งานได้ดีขึ้น  และได้ออกแบบเครื่องคั่วถั่วลิสงแบบใช้มอเตอร์หมุน  ให้กับกลุ่มแม่บ้านได้ไว้ใช้ในการผลิต  ผลิตภัณฑ์ถั่วลิสงอบเกลืออีกต่อไป
Fulltext ไม่มีไฟล์
จำนวนการอ่าน

Best Screen Resolution 1024x768 pixel and Text Size as Medium

Copyright 2012 All Rights Reserved | Power by IRD.SKRU