งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันของการจัดการระบบโลจิสติกส์ของการท่องเที่ยวในพื้นที่กลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเพื่อหาแนวทางพัฒนาการจัดการระบบโลจิสติกส์ของการท่องเที่ยวในพื้นที่กลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีวิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลโดยสร้างเครื่องมือ คือ แบบสอบและประเด็นคำถาม จากกลุ่มตัวอย่างจำนวนสามกลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่หนึ่งนักท่องเที่ยวชาวมาเลย์เซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย กลุ่มที่สองตัวแอทนหน่วยงานภาครัฐ และกลุ่มที่สามตัวแทนหน่วยงานภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว รวมทั้งหมด 415 คน ส่วนการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นแบบเชิงพรรณนา โดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ การหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยทางเลขคณิต ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า สภาพปัจจุบันของการจัดการระบบโลจิสติกส์ของการท่องเที่ยวในพื้นที่กลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งสามด้าน ได้แก่ ด้านการเคลื่อนที่ด้านกายภาพ ด้านการเคลื่อนที่ด้านข้อมูลข่าวสาร และด้านการเคลื่อนที่ด้านการเงินของนักท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน พบว่ามีประสิทธิภาพของการจัดการท่องเที่ยวอยู่ในระดับดีมาก มีมูลค่าเพิ่มที่ได้มาจากการมาเยือนและการมาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้านมาก ส่วนจุดแข็งของการท่องเที่ยวในพื้นที่ห้าจังหวัดชานแดนภาคใต้ มีตำแหน่งทำเลที่ตั้งใกล้ประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย ที่แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม และการเดินทางเข้ามายังพื้นที่ห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้มีความสะดวก สามารถเลือกได้ทั้งทางเครื่องบิน รถยนต์ รถไฟ และเรือ อีกทั้งมีโอกาสที่ดีได้แก่ เศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านชายแดน มีอัตราการเติบโตอย่างมาก มีความก้าวหน้า มีการเปิดเส้นทางเชื่อมโยง ภายใต้กรอบความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวของกลุ่มอาเซียน และของกลุ่มเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย (IMT-GT) ส่วนแนวทางพัฒนาการจัดการโลจิสติกส์ของการท่องเที่ยวในพื้นที่กลุ่มจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีกลยุทธ์ที่เหมาะสมมากที่สุด คือกลยุทธ์การปรับปรุงเส้นทางคมนาคมเพื่อเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งทางถนน รถไฟ ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่ออำนวยความสะดวกตลอดการเดินทางท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกใช้บริการในต้นทุนที่วางไว้