งานวิจัย
สันติ หมัดหมัน. (2567). การศึกษาเปรียบเทียบความชุกของเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อโรค และระดับโลหะหนักปนเปื้อนในน้ำนมแพะและสิ่งแวดล้อมที่เลี้ยงในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ประเทศไทย (ผู้ร่วมวิจัย 15%). ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.).
สันติ หมัดหมัน. (2557). การประเมินค่าการย่อยได้และพลังงานใช้ประโยชน์ได้ของหญ้ากินนีสีม่วงหมัดโดยใช้เทคนิคผลผลิตแก๊สในแพะ. ได้รับทุนสนับสนุนจากกองทุนวิจัยมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา.
สันติ หมัดหมัน และคณะ. (2556). ผลของระดับหญ้ากินนีสีม่วงหมักและอาหารข้นในอาหารผสมสำเร็จต่อปริมาณการกินได้และการใช้ประโยชน์ได้ของแพะ. ได้รับทุนสนับสนุนจากงบวิจัยคณะ (เงินบำรุงการศึกษา).
ผลงานตีพิมพ์เผยแพร่
สันติ หมัดหมัน .
(2559) .
ผลของระดับหญ้ากินนีสีม่วงหมักและอาหารข้น ในอาหารผสมสำเร็จต่อปริมาณการกินได้และการใช้ประโยชน์ได้ของแพะ .
การประชุมวิชาการระดับชาติ มหาวิทยาลัย ราชภัฏสงขลา ครั้งที่ 6 การศึกษาและวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น วันที่ 15-16 สิงหาคม 2559 ณ อาคารศูนย์ภาษาและคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา หน้า 1084-1089 ,
1084-1089
สันติ หมัดหมัน .
(2559) .
ผลของเปลือกข้าวโพดหวานหมักร่วมกับกากน้ำตาลระดับต่างๆ ต่อลักษณะทางกายภาพและองค์ประกอบทางเคมี .
การประชุมวิชาการระดับชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ครั้งที่ 8 : 2559 การวิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างยั่งยืนสู่โลกาภิวัฒน์ วันที่ 15 ธันวาคม 2559 ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ,
1534-1539
santi madman
.
(2016) .
Analysis of growth curves in Betong chicken .
The 17th Asian-Australasian Association of Animal Production Societies Animal Science Congress. 22-25 August 2016 Fukuoka, Japan. ,
806-809
สันติ หมัดหมัน .
(2562) .
การประเมินค่าการย่อยได้ และพลังงานที่ใช้ประโยชน์ได้ของทางใบปาล์มน้ำมันหมักร่วมกับกระถินในระดับต่างๆโดยใช้เทคนิคผลผลิตแก๊ส .
การประชุมวิชาการระดับชาติมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ครั้งที่ 12 : 2562 การวิจัยสหวิทยาการบนพื้นฐานยุค 5.0 ในวันที่ 20 ตุลาคม 2562 ณ อาคารศูนย์ประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต หน้า 1156-1167 ,
1156-1167
santi madman
.
(2022) .
In-vitro Gas Production and Digestibility of Indian Marsh Fleabane (Pluchea indica L.) and Portia Tree Leaves (Thespesia populneu) .
American Journal of Animal and Veterinary Sciences , (17)1 ,
53-60