ชื่อบทความ | การศึกษาความฉลาดทางอารมณ์กับการปรับตัวของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี |
---|---|
ประเภทการตีพิมพ์ | วารสารวิชาการระดับชาติ |
ชื่องานประชุมวิชาการ/วารสาร | วารสารวิจัยราชภัฏธนบุรี รับใช้สังคม |
ผู้แต่ง |
สุพิชฌาย์ เพ็ชรสดใส บุราณี ระเบียบ พนิดา โตบุญเรือง เกรียงศักดิ์ รัฐกุล |
วันที่ตีพิมพ์/นำเสนอ | 7 มิ.ย. 2568 |
ปีที่ | 11 |
ฉบับที่ | 1 |
หมายเลขหน้า | 18j |
ลักษณะบทความ | |
Abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Quotient: EQ)และความสามารถในการปรับตัวของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรีเพื่อเปรียบเทียบความฉลาดทางอารมณ์และการปรับตัวของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี ที่มีปัจจัยประชากรศาสตร์แตกต่างกัน และเพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์และการปรับตัวของนักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี กลุ่มตัวอย่างเป็นนักศึกษาระดับปริญญาตรี ปีการศึกษา 2564 จำนวน 522 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบสอบถามประเมินความฉลาดทางอารมณ์และการปรับตัว และแบบสัมภาษณ์การเก็บรวบรวมข้อมูลจากแบบสอบถามและการสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) โดยจัดหมวดหมู่ตามประเด็นหลักและสรุปตีความอย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่ข้อเสนอเชิงนโยบายที่สอดคล้องกับบริบทของนักศึกษา ส่วนข้อมูลเชิงปริมาณ ใช้สถิติเชิงพรรณนา ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้สถิติ t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. ระดับความฉลาดทางอารมณ์ของนักศึกษาโดยรวมอยู่ในระดับสูง (X=3.53, S.D.=0.44) โดยมีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดในด้านการบริหารจัดการด้านสัมพันธภาพ (X=3.74) รองลงมาคือการรู้จักอารมณ์ของตนเอง (X=3.66) และการรับรู้อารมณ์ของผู้อื่น (X=3.56) ส่วนด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยต่ำที่สุด คือการบริหารจัดการอารมณ์ (X=3.19) แต่อยู่ในระดับสูงเช่นกัน 2. การปรับตัวของนักศึกษาโดยรวมอยู่ในระดับสูง (X=3.21, S.D.=0.56) โดยมีคะแนนเฉลี่ยสูงสุดในด้านการเข้าสังคม (X=3.42) และด้านสติปัญญา (X=3.32) ส่วนด้านอารมณ์มีคะแนนอยู่ในระดับปานกลาง (X=2.89)3. ผลการเปรียบเทียบตามเพศ พบว่านักศึกษาหญิงมีระดับความฉลาดทางอารมณ์และความสามารถในการเข้าสังคมสูงกว่านักศึกษาชายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < .05)4. ผลการเปรียบเทียบตามคณะ พบว่า ระดับความฉลาดทางอารมณ์ภาพรวมของนักศึกษาในแต่ละคณะไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติจากผลการวิจัยดังกล่าว จึงเสนอแนวทางพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์และการปรับตัว ได้แก่ การบูรณาการ EQ ในกระบวนการเรียนการสอน การจัดกิจกรรมเสริมสร้างทักษะด้านอารมณ์และสังคม และการให้การปรึกษาเพื่อส่งเสริมสุขภาพจิต โดยสามารถประยุกต์ใช้ในบริบทของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างศักยภาพนักศึกษาในการเผชิญกับความท้าทายในอนาคต |