รายละเอียดข้อมูลการตีพิมพ์เผยแพร่

ชื่อบทความ การประเมินความต้องการจ าเป็นของครูในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
ประเภทการตีพิมพ์ วารสารวิชาการระดับชาติ
ชื่องานประชุมวิชาการ/วารสาร วารสารสถาบันราชสุดาเพื่อการวิจัยและพัฒนาคนพิการ
ผู้แต่ง โสภณ ชัยวัฒนกุลวานิช
วันที่ตีพิมพ์/นำเสนอ 25 ธ.ค. 2567
ปีที่ 20
ฉบับที่ 2
หมายเลขหน้า 44-59
ลักษณะบทความ
Abstract การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความต้องการจ าเป็นของครูในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน และ2) เสนอแนวทางในการพัฒนาความสามารถของครูด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน กลุ่มตัวอย่าง คือ ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนโสตศึกษา จ านวน 273 คน และผู้ทรงคุณวุฒิ จ านวน 5คน เครื่องมือที่ใช้การวิจัย คือ แบบสอบถามความต้องการจ าเป็นการวัดและแระเมินผลการเรียนรู้ฐานสมรรถนะและแบบสัมภาษณ์แนวทางการพัฒนาความสามารถด้านการวัดและประเมินผลฐานสมรรถนะด าเนินการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน PNIModifiedและการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า1) ค่าดัชนีความต้องการจ าเป็นของครูในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยินสูงที่สุดคือ ด้านทักษะ (PNIModified= 0.22)รองลงมาคือ ด้านความรู้ (PNIModified= 0.20)และด้านคุณลักษณะ (PNIModified= 0.16) ตามล าดับ และ2) แนวทางการพัฒนาความสามารถของครูด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ สรุปได้7 แนวทางแบ่งเป็นด้านความรู้ จ านวน 3 แนวทางคือการก าหนดนโยบายหรือแนวปฏิบัติที่ชัดเจนเกี่ยวกับการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ฐานสมรรถนะการจัดท าแผนหรือโครงการเพื่อพัฒนาความรู้ด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ฐานสมรรถนะและการจัดท าระบบสนับสนุนการเรียนรู้ของครูด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ฐานสมรรถนะด้านทักษะ จ านวน 2 แนวทางคือ การก าหนดแนวปฏิบัติและต้นแบบส าหรับการวัดและประเมินผลการเรียนฐานสมรรถนะของสถานศึกษาและการจัดทีมผู้เชี่ยวชาญให้ค าปรึกษา การลงมือปฏิบัติและการติดตามผลการปฏิบัติการวัดและประเมินผลการเรียนฐานสมรรถนะและด้านคุณลักษณะ จ านวน 2 แนวทาง คือ การก าหนดนโยบายหรือแนวปฏิบัติในการคัดเลือกครูที่มีความรู้ ความสามารถและพร้อมการเป็นครูการศึกษาพิเศษ และการเสริมแรงทางบวกให้กับครูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการท างาน