ชื่อบทความ | การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษาเรื่อง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศเพื่อนบ้านและความส าคัญของพระพุทธศาสนา โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบใช้ค าถามร่วมกับกระบวนการกลุ่ม ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดหัวป้อมนอก)De |
---|---|
ประเภทการตีพิมพ์ | ประชุมวิชาการระดับชาติ |
ชื่องานประชุมวิชาการ/วารสาร | รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการนำเสนอผลงานวิจัยระดับชาติ |
ผู้แต่ง |
พนัชกร พิทธิยะกุล |
วันที่ตีพิมพ์/นำเสนอ | 29 มี.ค. 2567 |
ปีที่ | 7 |
ฉบับที่ | 7 |
หมายเลขหน้า | 156-164 |
ลักษณะบทความ | |
Abstract | บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์ คือ เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษาเรื่อง การเผยแผ่ พระพุทธศาสนาในประเทศเพื่อนบ้านและความส าคัญของพระพุทธศาสนา โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบใช้ค าถาม ร่วมกับกระบวนการกลุ่ม ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา สังคมศึกษาเรื่อง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศเพื่อนบ้านและความส าคัญของพระพุทธศาสนาระหว่าง ก่อนและหลังใช้การจัดการเรียนรู้แบบใช้ค าถาม ร่วมกับกระบวนการกลุ่ม ของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ซึ่งกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียน เทศบาล 5 (วัดหัวป้อมนอก) จ านวน 24 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ (1)แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสังคม ศึกษา (2)แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน การวิเคราะห์ข้อมูลท าได้โดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่า เบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความเที่ยงตรง และทดสอบค่าเฉลี่ยด้วยสถิติ One sample t-test ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ (1)นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดหัวป้อมนอก) มีการ พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษาเรื่อง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศเพื่อนบ้านและ ความส าคัญของพระพุทธศาสนา หลังใช้การจัดการเรียนรู้โดยใช้ค าถามร่วมกับกระบวนการมีคะแนนการพัฒนา เพิ่มขึ้นร้อยละ 36.65 คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 4.79 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรีย เท่ากับ 12.13 โดยมีค่า t-test เท่ากับ 23.59 (2)ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษาเรื่อง การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในประเทศเพื่อนบ้าน และความส าคัญของพระพุทธศาสนา หลังการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้โดยใช้ค าถามร่วมกับ กระบวนการกลุ่ม สูงกว่าก่อนใช้การจัดการเรียนรู้โดยใช้ค าถามร่วมกับกระบวนการกลุ่มอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ ระดับ .05 ค าส าคัญ : การจัดการเรียนรู้แบบใช้ค าถาม, กระบวนการกลุ่ม, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 1 นักศึกษาระดับปริญญาตรี คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา อีเมล 634110006@parichat.skru.ac.th 2 อาจารย์ประจ าสาขาวิชาสังคมศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา 3ครูช านาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดหัวป้อมนอก) รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการน าเสนอผลงานวิจัยระดับชาตินวัตกรรมวิชาชีพครู ครั้งที่ 7 157 Abstract This research aimed to achieve two objectives: firstly, to enhance the effectiveness of social studies learning outcomes regarding the dissemination of Buddhism in neighboring countries and the significance of Buddhism by employing inquiry-based learning with group processes among 2nd year high school students; and secondly, to compare the learning outcomes before and after using inquiry- based learning with group processes among 2nd year high school students. The sample group consisted of 24 2nd year high school students from Term 1, Academic Year 2566, at Municipality School 5 (Wat Hua Poom Nok) . The research instruments included: (1) a social studies learning management plan, (2) pre- and post-learning tests. Data analysis was conducted using percentages, means, standard deviations, averages, and the one sample t-test. The research findings can be summarized as follows: (1) The 2nd year high school students at Municipality School 5 (Wat Hua Poom Nok) demonstrated improved learning outcomes regarding the dissemination of Buddhism in neighboring countries and the significance of Buddhism after employing inquiry- based learning with group processes, with an average increase of 36.65 percentage points. The pre-learning average score was 4.79, while the post-learning average score was 12.13, with a t-test value of 23.59. (2) The learning outcomes regarding the dissemination of Buddhism in neighboring countries and the significance of Buddhism after employing inquiry-based learning with group processes were significantly higher compared to before, with statistical significance at the .05 level. Keywords : inquiry-based learning, group processes, learning outcomes. |